มือใหม่ที่เริ่มหัดลงทุนในหุ้นกัน ส่วนใหญ่ก็ต้องเจอกับเหล่าคำศัพท์แปลกๆ ที่ไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร แต่คำพวกนี้กลับเป็นสิ่งที่นักลงทุนในหุ้นจะต้องรู้จัก เช่นเดียวกันกับคำว่า IPO ที่มักได้ยินกันอยู่บ่อยครั้ง
IPO คืออะไร ? ทำไมนักลงทุนจึงต้องทำความเข้าใจกับเรื่องนี้
มือใหม่ที่เริ่มหัดลงทุนในหุ้นกัน ส่วนใหญ่ก็ต้องเจอกับเหล่าคำศัพท์แปลกๆ ที่ไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร แต่คำพวกนี้กลับเป็นสิ่งที่นักลงทุนในหุ้นจะต้องรู้จัก เช่นเดียวกันกับคำว่า IPO ที่มักได้ยินกันอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นหากใครยังไม่เคยลงทุนในตลาดหุ้นมาก่อน เราลองมาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งคำนี้ ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการลงทุนได้มากขึ้น
IPO เรียกกันสั้นๆ ตามตัวอักษรคือ ไอ พี โอ เป็นชื่อย่อของคำว่า Initial Public Offering หากแปลความเป็นภาษาทางการสักหน่อย ก็จะหมายถึง “การเสนอ” ขายหุ้นให้กับคนทั่วไป ซึ่งก็คือประชาชนอย่างพวกเราเป็นครั้งแรก พูดง่ายๆ คือเป็นความหมายที่ต่างจากคำว่า PO ซึ่งคำนี้ คือ Public Offering เป็นการเสนอขายเช่นเดียวกัน เพียงแค่ว่าเป็นหุ้นที่มีอยู่แล้วในตลาดหลักทรัพย์ แต่ว่า IPO จะเป็นหุ้นใหม่ ที่ไม่เคยมีการนำมาเสนอขายมาก่อน
แน่นอนว่าการนำออกมาเร่ขายนี้ ก็เพื่อผลประโยชน์ของบริษัทเอง โดยสรุปแบบเข้าใจให้ง่าย คือการที่บริษัทเริ่มเติบโต มองเห็นว่าตัวเองควรเริ่มต้นขยายกิจการเพื่อความมั่นคง ซึ่งก็จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งอาจมาจากการกู้ยืมแบงค์ และอีกส่วนก็เหมือนการหาเพื่อนมาช่วยร่วมหุ้น ซึ่งก็คือ IPO ในความหมายของตลาดหุ้นนี่เอง บริษัทก็จะการเสนอขายหุ้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วม หรืออาจเรียกว่าเป็นการระดมทุนด้วยวิธีขายหุ้น ซึ่งดีกว่าการกู้ยืมเงินจากธนาคารที่ต้องเสียดอกเบี้ย
นักลงทุนจะได้อะไรจากการเสนอขายหุ้นของบริษัท?
เห็นถึงวัตถุประสงค์ของการเสนอขายหุ้นของบริษัทกันแล้วว่า เพื่อต้องการระดมทุนเข้ามาให้ตัวเองสามารถพัฒนาบริษัท ขยายกิจการได้มากขึ้น ส่วนนักลงทุนที่เข้ามาซื้อหุ้นตัวที่ถูกเสนอขาย พวกเขาจะได้รับอะไร? คำตอบก็คือ ก็ได้รับเป็นเงินปันผลเหมือนกับหุ้นอื่นทั่วไป เพียงแต่ว่าเป็นครั้งแรกที่บริษัทเปิดเสนอขายหุ้นให้กับนักลงทุน คนส่วนมากจะคิดว่าหุ้น IPO เป็นหุ้นที่จะมีมูลค่าสูงในอนาคต เมื่อถูกเปิดซื้อขายครั้งแรก คิดว่าราคาจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะบริษัทเอาเงินไปหมุนเวียนในธุรกิจ ทว่าหาใช่จะเป็นแบบนี้เสมอไป บางครั้งก็มีความเสี่ยงที่จะมีมูลค่าลดลงได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความสามารถการบริหารงานของบริษัทดังกล่าวด้วย
ไม่ว่าจะเป็นหุ้นใหม่หรือหุ้นที่มีอยู่แล้วในตลาดหลักทรัพย์ ความเสี่ยงในการลงทุนย่อมมีให้เห็นได้เสมอ ดังนั้นใครที่เป็นมือใหม่ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจซื้อทันทีที่เห็นการเปิดตลาดวันแรก เพื่อความระมัดระวังก่อนซื้อก็ต้องทำความรู้จักกับบริษัทที่เปิดตัวซื้อขายหุ้นวันแรกให้ดีเสียก่อน ทั้งการเงิน และธุรกิจที่ทำตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แล้วเช็คด้วยว่ามีใครเป็นผู้บริหาร มีใครถือหุ้นหลักในบริษัท ราคาหุ้นที่นำออกมาขายราคาเท่าไหร่ วัตถุประสงค์ของการระดมทุนจะเอาไปใช้ในด้านไหน และแน่นอนว่าอย่าลืมดูผลตอบแทนที่คุณจะได้รับด้วยว่าคุ้มเสี่ยงหรือไม่
สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับการลงทุนอื่นๆ ได้ >> ที่นี่
